“ฉันพยายามร้องทูลต่อพระเจ้า แต่พระองค์ไม่ทรงตอบ”
อิสยาห์ 59:1-2 ดูเถิด พระหัตถ์ของพระเยโฮวาห์มิได้สั้นลง ที่จะช่วยให้รอดไม่ได้ หรือพระกรรณตึง ซึ่งจะไม่ทรงได้ยิน แต่ว่าความชั่วช้าของเจ้าทั้งหลายได้กระทำให้เกิดการแยกระหว่างเจ้ากับพระเจ้าของเจ้า และบาปของเจ้าทั้งหลายได้บังพระพักตร์ของพระองค์เสียจากเจ้า พระองค์จึงมิได้ยิน
“ฉันไม่เห็นว่าชีวิตของฉันมันผิดตรงไหน”
สุภาษิต 30:12 มีคนชั่วอายุหนึ่งที่บริสุทธิ์ในสายตาของตนเอง แต่ยังมิได้รับการชำระล้างให้พ้นจากความโสโครกของตน
“ใครๆก็ทำแบบนี้”
อพยพ 23:2 อย่าทำชั่วตามอย่างคนจำนวนมากที่เขาทำกันนั้นเลย อย่าอ้างพยานลำเอียงเข้าข้างหมู่มาก จะทำให้ขาดความยุติธรรมไป
“ฉันไม่จำเป็นต้องมีพระเจ้า”
โยบ 34:14-15 ถ้าพระองค์ทรงเอาพระทัยใส่กับมนุษย์ และทรงรวบรวมวิญญาณและลมปราณของเขากลับมาสู่พระองค์ เนื้อหนังทั้งสิ้นก็จะพินาศไปด้วยกัน และมนุษย์ก็จะกลับไปเป็นผงคลีดิน
“ฉันต้องเสียสละหลายสิ่งเกินไปถ้าฉันเป็นคริสเตียน”
มาระโก 8:36-37 เพราะถ้าผู้ใดจะได้สิ่งของสิ้นทั้งโลก แต่ต้องสูญเสียจิตวิญญาณของตน ผู้นั้นจะได้ประโยชน์อะไร เพราะว่าผู้นั้นจะนำอะไรไปแลกเอาจิตวิญญาณของตนกลับคืนมา
“ในคริสตจักรมีแต่พวกชอบเสแสร้ง”
โรม 14:12 ฉะนั้นเราทุกคนจะต้องทูลเรื่องราวของตัวเองต่อพระเจ้า
“ฉันจะกลับใจทีหลัง”
สุภาษิต 29:1 บุคคลที่ถูกตักเตือนบ่อยๆ แต่ยังทำคอแข็ง ประเดี๋ยวจะถูกทำลาย จึงรักษาไม่ได้
“ฉันรู้สึกเฉยๆกับพระเยซู”
มัทธิว 12:30 ผู้ที่ไม่อยู่ฝ่ายเราก็เป็นปฏิปักษ์ต่อเรา และผู้ที่ไม่รวบรวมไว้กับเราก็เป็นผู้กระทำให้กระจัดกระจายไป
“ฉันก็เป็นคนดีคนหนึ่ง”
ลูกา 18:19 ไม่มีใครประเสริฐเว้นแต่พระเจ้าองค์เดียว
“ฉันพยายามทำแต่สิ่งที่ดีตลอดมา”
โรม 3:10-12 ไม่มีผู้ใดเป็นคนชอบธรรมสักคนเดียว ไม่มีเลย ไม่มีคนที่เข้าใจ ไม่มีคนที่แสวงหาพระเจ้า เขาทุกคนหลงทางไปหมด เขาทั้งปวงเป็นคนไร้ค่าเหมือนกันทั้งสิ้น ไม่มีสักคนเดียวที่ทำดี ไม่มีเลย
“มันไม่สำคัญว่าคุณจะนับถือศาสนาอะไรตราบใดที่คุณมีความบริสุทธิ์ใจ”
สุภาษิต 14:12 มีทางหนึ่งซึ่งคนเราดูเหมือนถูก แต่มันสิ้นสุดลงที่ทางของความมรณา
“มนุษย์เป็นผู้เขียนพระคัมภีร์”
2 เปโตร 1:21 ด้วยว่าคำพยากรณ์ในอดีตนั้นไม่ได้มาจากความประสงค์ของมนุษย์ แต่พวกผู้บริสุทธิ์ของพระเจ้าได้กล่าวคำตามที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทรงดลใจเขา
“พระคัมภีร์เองยังขัดแย้งกันในหลายๆเรื่อง”
สุภาษิต 14:6 คนมักเยาะเย้ยแสวงหาปัญญาเสียเปล่า แต่ความรู้นั้นก็ง่ายแก่คนที่มีความเข้าใจ
“สุดท้ายทุกคนจะรอด”
มัทธิว 7:13-14 จงเข้าไปทางประตูแคบ เพราะว่าประตูใหญ่และทางกว้างนั้นนำไปถึงความพินาศ และคนที่เข้าไปทางนั้นมีมาก เพราะว่าประตูซึ่งนำไปถึงชีวิตนั้นก็คับและทางก็แคบ ผู้ที่หาพบก็มีน้อย
“ฉันเชื่อว่ามีพระเจ้าจริง”
ยากอบ 2:19 ท่านเชื่อว่ามีพระเจ้าองค์เดียว นั่นก็ดีอยู่แล้ว แม้พวกปีศาจก็เชื่อเช่นกัน และกลัวจนตัวสั่น
“ฉันเป็นคริสเตียนตลอดชีวิตของฉัน”
ยอห์น 3:3, 6-7 พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ถ้าผู้ใดไม่ได้บังเกิดใหม่ ผู้นั้นจะเห็นอาณาจักรของพระเจ้าไม่ได้” ซึ่งบังเกิดจากเนื้อหนังก็เป็นเนื้อหนัง และซึ่งบังเกิดจากพระวิญญาณก็คือจิตวิญญาณ อย่าประหลาดใจที่เราบอกท่านว่า “ท่านต้องบังเกิดใหม่”
“พระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของฉัน แต่ไม่ได้เป็นองค์จอมเจ้านายของฉัน”
1 ยอห์น 2:4 คนใดที่กล่าวว่า “ข้าพเจ้ารู้จักพระองค์” แต่มิได้รักษาพระบัญญัติของพระองค์ คนนั้นก็เป็นคนพูดมุสา และความจริงไม่ได้อยู่ในคนนั้นเลย
“ฉันยังมีเวลาอีกมากที่จะกลับมาหาพระเจ้า”
ลูกา 12:20 แต่พระเจ้าตรัสแก่เขาว่า “เจ้าคนโง่ ในคืนวันนี้ชีวิตของเจ้าจะต้องเรียกเอาไปจากเจ้า”
“ความเชื่อที่ว่าพระเยซูตายแทนความบาปของฉัน ฟังดูไม่มีเหตุผลเลย”
1 โครินธ์ 1:18 คนทั้งหลายที่กำลังจะพินาศก็เห็นว่าการประกาศเรื่องกางเขนเป็นเรื่องโง่ แต่พวกเราที่รอดเห็นว่าเป็นฤทธานุภาพของพระเจ้า
“พระเจ้าไม่มีทางจะให้อภัยในสิ่งที่ฉันได้ทำลงไป”
มาระโก 3:28 เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ความผิดบาปทุกอย่างและคำหมิ่นประมาทที่เขากล่าวนั้น จะทรงโปรดยกให้บุตรทั้งหลายของมนุษย์ได้